การจัดการมลพิษทางอากาศ ภัยร้ายใกล้ตัวที่ไม่ควรมองข้าม

การจัดการมลพิษทางอากาศ

   ในปัจจุบัน บริษัท เอ็น-เทคโนโลยี คอนซัลแตนท์ จํากัด ได้เห็นถึงปัญหา ในยุคที่การพัฒนาทางอุตสาหกรรมและการเติบโตของประชากรกำลังก้าวหน้าไปอย่างไม่หยุดยั้ง ทำให้เกิดปัญหาในโลกที่เราหายใจอยู่ทุกวันนี้ ซ่อนไปด้วยภัยคุกคามที่ไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า แต่สามารถรู้สึกได้จากการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นกับสุขภาพและสิ่งแวดล้อมรอบตัวเรา นั่นคือ “ปัญหามลพิษทางอากาศ” ภัยร้ายที่อยู่ใกล้ตัวเรามากกว่าที่เราคิด และไม่ควรถูกมองข้าม มลพิษทางอากาศได้ทวีความรุนแรงขึ้นในแต่ละวัน ท่ามกลางการพัฒนาของสังคม และการขยายตัวของเมืองที่ไม่หยุดยั้ง ปัญหานี้ไม่เพียงแต่ส่งผลกระทบต่อคุณภาพอากาศที่เราหายใจเข้าไปเท่านั้น แต่ยังมีผลต่อสุขภาพจิต สุขภาพกาย และความสมดุลของระบบนิเวศทั้งหมด

   โดย การจัดการมลพิษทางอากาศ เป็นปัญหาที่ไม่สามารถแก้ไขได้ด้วยการดำเนินการของบุคคลเพียงคนเดียว แต่ต้องการการร่วมมือจากทุกภาคส่วน ไม่ว่าจะเป็นรัฐบาล ภาคธุรกิจ ชุมชน และแต่ละบุคคล เพื่อนำเสนอแนวทางแก้ไข และดำเนินการที่จะช่วยลดการปล่อยมลพิษ ทำให้โลกของเราเป็นที่อยู่อาศัยที่ดีกว่าสำหรับทุกชีวิต

ปัญหามลพิษทางอากาศ คืออะไร?

   มลพิษทางอากาศ คือ อากาศที่ถูกปนเปื้อนจากสารพิษต่างๆ ลงสู่ชั้นบรรยากาศ ซึ่งสามารถส่งผลเสียต่อสุขภาพมนุษย์ สัตว์ พืช และระบบนิเวศน์โดยรวมได้ สารปนเปื้อนเหล่านี้อาจมีทั้งในรูปของก๊าซ ฝุ่นละออง หรืออนุภาคจิ๋วที่ลอยอยู่ในอากาศ ซึ่งมักมีแหล่งกำเนิดของมลพิษทางอากาศ ทั้งจากธรรมชาติ และกิจกรรมของมนุษย์ ได้ดังนี้

แหล่งกำเนิดมลพิษทางอากาศจากธรรมชาติ

  • การปะทุของภูเขาไฟ เช่น ปล่อยก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์ และเถ้าภูเขาไฟละอองลงสู่บรรยากาศ
  • ไฟป่า เช่น ปล่อยคาร์บอนมอนอกไซด์ คาร์บอนไดออกไซด์ และอนุภาคละอองเข้าสู่อากาศ
  • การระเหยของสารระเหยง่าย เช่น การระเหยของมีเทนจากบึงและสวนน้ำ

แหล่งกำเนิด ปัญหามลพิษทางอากาศ จากกิจกรรมของมนุษย์

  • การเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิล เช่น จากการขับขี่รถยนต์ การผลิตพลังงานในโรงไฟฟ้า และกระบวนการอุตสาหกรรมต่างๆ
  • การเกษตร เช่น การเผาที่นาหลังเก็บเกี่ยว การใช้ปุ๋ยเคมีและยาฆ่าแมลงที่ปล่อยก๊าซมีเทน และอื่นๆ
  • อุตสาหกรรม เช่น การผลิตที่ปล่อยสารพิษ เช่น ก๊าซไนตรัสออกไซด์ และก๊าซซัลเฟอร์ไดออกไซด์
  • การก่อสร้าง เช่น ฝุ่นละอองจากการก่อสร้าง การทำลาย และการขนส่งวัสดุก่อสร้าง
  • การจัดการขยะ เช่น การเผาขยะที่ไม่ถูกต้องสามารถปล่อยก๊าซพิษและอนุภาคละอองเข้าสู่อากาศ

   มลพิษทางอากาศเป็นปัญหาที่ต้องการการจัดการอย่างรอบคอบและมีประสิทธิภาพ เพื่อลดผลกระทบต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม การตระหนักรู้เกี่ยวกับแหล่งกำเนิดและผลกระทบของมลพิษทางอากาศเป็นขั้นตอนแรกที่สำคัญในการหาวิธีแก้ไขและป้องกันปัญหานี้ในระยะยาว

สถานการณ์มลพิษทางอากาศ ในปัจจุบัน

ปัญหาฝุ่นละออง PM2.5 ในปัจจุบัน กลายเป็นภัยคุกคามต่อสุขภาพ และสิ่งแวดล้อมของประเทศไทยอย่างรุนแรง ทำให้ประชาชนในหลายพื้นที่ต้องเผชิญกับปัญหามลพิษทางอากาศที่ส่งผลต่อสุขภาพและคุณภาพชีวิต

   โดยฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM2.5 เป็นหนึ่งในมลพิษทางอากาศที่อันตรายที่สุด เพราะฝุ่นละอองเหล่านี้สามารถเข้าสู่ร่างกายผ่านระบบหายใจ ส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจ หัวใจและหลอดเลือด สมอง และระบบอื่นๆ ของร่างกาย ซึ่งอาจนำไปสู่ปัญหาสุขภาพได้

  1. ผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจ

   การสูดดม PM2.5 เข้าไปสามารถทำให้เกิดอาการระคายเคืองในจมูก คอ และปอด นำไปสู่โรคหอบหืด โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง (COPD) และการติดเชื้อทางเดินหายใจได้

  1. ผลกระทบต่อระบบหัวใจและหลอดเลือด

   PM2.5 สามารถเข้าสู่กระแสเลือด ทำให้เกิดการอักเสบ การเสื่อมสภาพของหลอดเลือด และเพิ่มความเสี่ยงของโรคหัวใจ เช่น โรคหัวใจขาดเลือด และโรคหลอดเลือดสมอง

  1. ผลกระทบต่อสมอง

   การศึกษาพบว่า PM2.5 สามารถทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในสมอง อาจเพิ่มความเสี่ยงของโรคสมองเสื่อมและอาการทางจิตเวชอื่นๆ

  1. ผลกระทบต่อการตั้งครรภ์

   การสัมผัสกับ PM2.5 ในระหว่างการตั้งครรภ์อาจส่งผลเสียต่อการพัฒนาของทารกในครรภ์ เช่น น้ำหนักแรกเกิดต่ำ และการคลอดก่อนกำหนด

  1. ผลกระทบต่อระบบภูมิคุ้มกัน

   PM2.5 สามารถทำให้เกิดการอักเสบและลดภาวะภูมิคุ้มกันของร่างกาย ทำให้เสี่ยงต่อการติดเชื้อได้ง่ายขึ้น

   การป้องกันและลดผลกระทบจาก PM2.5 ต้องการการดำเนินการทั้งจากระดับบุคคลและสังคม ซึ่งรวมถึงการสวมหน้ากาก N95 ในวันที่มีคุณภาพอากาศไม่ดี การใช้เครื่องฟอกอากาศในบ้าน การรณรงค์ลดการปล่อยมลพิษจากยานพาหนะและโรงงานอุตสาหกรรม และการปลูกต้นไม้เพื่อช่วยกรองอากาศ การเข้าใจและรับมือกับปัญหา PM2.5 เป็นส่วนสำคัญในการรักษาสุขภาพและคุณภาพชีวิตที่ดี

7 วิธีแนวทาง การจัดการมลพิษทางอากาศ

  1. การพัฒนาและการใช้พลังงานทางเลือก

   ส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียน เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม และพลังงานไฮโดร ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยลดการปล่อยมลพิษจากการเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิล แต่ยังช่วยลดความพึ่งพาต่อเชื้อเพลิงฟอสซิล

  1. การปรับปรุงมาตรฐานการปล่อยมลพิษของยานพาหนะ

   กำหนดมาตรฐานการปล่อยมลพิษที่เข้มงวดยิ่งขึ้นสำหรับยานพาหนะใหม่ และส่งเสริมการใช้ยานพาหนะไฟฟ้าและยานพาหนะที่ใช้พลังงานสะอาด

  1. การปรับปรุงการจัดการของเสีย ด้วยการรีไซเคิล

   ส่งเสริมการรีไซเคิลและการจัดการของเสียอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อลดปริมาณขยะที่ต้องเผาทิ้งซึ่งเป็นหนึ่งในแหล่งกำเนิดของมลพิษทางอากาศ “คลิกเพื่ออ่านเพิ่มเติม” https://www.en-technology.com/zero-landfill-brick/

  1. การปลูกต้นไม้และการอนุรักษ์พื้นที่สีเขียว

   การปลูกต้นไม้และการรักษาพื้นที่สีเขียวช่วยฟอกอากาศและลดปริมาณ CO2 ในบรรยากาศ นอกจากนี้ยังช่วยปรับปรุงคุณภาพอากาศในพื้นที่นั้นๆ

  1. การใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ เพื่อลดมลพิษ

   การพัฒนาและนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ เช่น เทคโนโลยีการจับและเก็บ CO2 และเทคโนโลยีฟอกอากาศ เพื่อลดการปล่อยมลพิษ

  1. การสร้างความตระหนักรู้และการศึกษา

   ส่งเสริมการศึกษาและการสร้างความตระหนักรู้เกี่ยวกับผลกระทบของมลพิษทางอากาศ และวิธีการลดการสัมผัสและการปล่อยมลพิษ

  1. การกำหนดนโยบายและข้อบังคับที่เข้มงวด

   กำหนดนโยบายและข้อบังคับที่เข้มงวดเพื่อควบคุมแหล่งกำเนิดมลพิษหลัก เช่น โรงงานอุตสาหกรรม การขนส่ง และการเผาไหม้เชื้อเพลิง

   ดังนั้น การแก้ไขปัญหามลพิษทางอากาศต้องการความมุ่งมั่น และการดำเนินการอย่างต่อเนื่องจากทุกภาคส่วนของสังคม และภาคอุตสาหกรรม เพื่อสร้างอนาคตที่สดใสและยั่งยืนสำหรับโลกของเรา

จากที่กล่าวมา

ปัญหามลพิษทางอากาศที่กลายเป็นหนึ่งในความหน้ากลัวของโลกในยุคปัจจุบัน ซึ่งเกิดจากการพัฒนาทางอุตสาหกรรม และการเติบโตของประชากรที่ไม่หยุดยั้ง บริษัท เอ็น-เทคโนโลยี คอนซัลแตนท์ จำกัด จึงได้เห็นถึงความรุนแรงของปัญหานี้ ที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพและสิ่งแวดล้อม โดยมลพิษทางอากาศไม่เพียงแต่ทำให้คุณภาพอากาศที่เราหายใจเข้าไปแย่ลง แต่ยังมีผลต่อสุขภาพจิต สุขภาพกาย และความสมดุลของระบบนิเวศทั้งหมด


ขั้นตอนการให้บริการ กำจัดกากอุตสาหกรรมอันตราย

  1. เข้าพบลูกค้าเพื่อสอบถามรายละเอียด
  2. ดูหน้างานว่าเป็น waste ประเภทไหนบ้าง อันตรายหรือไม่อันตราย
  3. ประเมินว่าต้องใช้รถขนส่งประเภทไหน เช่น รถกระบะ4ล้อ, Roll off  Box ,  Roll off  Tank
  4. เก็บตัวอย่างเพื่อนำมาวิเคราะห์ทางกายภาพเบื้องต้น
  5. จัดทำใบเสนอราคาภายใน 2 วัน
  6. วิเคราะห์ LAB 7  วัน (ฟรี)
  7. ลูกค้าต้องเตรียมตัวอย่างเพื่อที่จะนำไปวิเคราะห์ประมาณ 1 กิโลกรัม/ตัวอย่าง
  8. เซลล์จะไปรับตัวอย่างเพื่อส่งวิเคราะห์กับห้องแลปที่ขึ้นทะเบียนกับกรมโรงงาน ใช้เวลา 7 วัน
  9. ส่งผลวิเคราะห์ให้กับทางลูกค้า
  10. ขออนุญาตกับกรมโรงงาน (3-5วัน)
  11. ลูกค้าที่ไม่เคยยื่นขออนุญาตในระบบกรมโรงงาน ทางเอ็นเทคฯ ดำเนินการสมัครการใช้บริการให้จนแล้วเสร็จ
  12. Support ข้อมูลการยื่นขออนุญาตให้กับลูกค้า (พร้อมผลวิเคราะห์ ถ้ามี)
  13. มีเจ้าหน้าที่คอยติดตามผลอนุญาตกับกรมโรงงานอุตสาหกรรมให้ ใช้เวลาประเมาน 3-5 วัน
  14. แจ้งวันขนส่งล่วงหน้า 12 ชั่วโมง – รถขนส่ง บริการ 24 ชั่วโมง
  15. เซลล์เช็ครถขนส่งให้กับลูกค้า
  16. เซลล์จัดเตรียมเอกสารกำกับการขนส่งกากของเสียออกนอกบริเวณโรงงาน

"หากคุณรู้สึกว่า ขั้นตอนหรือการดำเนินการเหล่านี้ ไม่ใช่สิ่งที่คุณถนัด ลองมาใช้บริการส่งกำจัดของเสียกับเราสิ!"

หมดกังวลกับขั้นตอนเหล่านี้

หากท่านเลือกใช้บริการเอ็น-เทคฯ
- เรามีทีมผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษา ฟรี!
- เรามีทีมซัพพอร์ตยื่นขออนุญาตให้ ฟรี!
- เรามีเจ้าหน้าที่ติดตามผลการอนุมัติกับกรมโรงงานฯ หรืออุตสาหกรรมจังหวัด ฟรี!
- เรามีเจ้าหน้าที่คอยติดตาม และแจ้งเตือนก่อนที่ใบอนุญาตเดิมจะหมดอายุ ฟรี!

สนใจใช้บริการ กำจัดของเสีย
โทรเลย Hotline 24 ชม. : 086 318 8970
แอดไลน์ได้ที่ LINE : >>คลิกแอดไลน์<<

บริการฟรีๆ เพื่อเพิ่มความสะดวกสบายหายห่วงให้ลูกค้าของเรา

✅หมดกังวลกับการดำเนินการผ่านระบบอิเล็คทรอนิกส์
✅หมดกังวลเรื่องงานเอกสาร มอบงานยุ่งๆให้เราดูแล
✅หมดกังวลเรื่องกฏหมาย เราเชี่ยวชาญพร้อมสนับสนุน
✅หมดกังวลเรื่องเวลา ให้เราติดตามและดูแลทุกขั้นตอนการติดตามผล
Free ที่ปรึกษา แนะนำทุกขั้นตอน พร้อมให้บริการตลอด 24 Hr.
ให้เรื่องกฏหมายกากอุตสาหกรรมเป็นเรื่องง่ายๆ สำหรับคุณ
โทรเลย ☎ : 0863188970 (24 ชั่วโมง)
📌 สอบถามและติดต่อบริการ
📲 : LINE : @entechnology

บริษัทรับกำจัดขยะโรงงานอุตสาหกรรม รับกำจัดกากอุตสาหกรรม รับกำจัดกากของเสีย รับกำจัดกากตะกอน รับทำลายสินค้า นำมาดำเนินการตามรายละเอียดใบอนุญาตประเภท 105  (3-105-145/47สป) และ ใบอนุญาตโรงงานประเภท 106 (3-106-5/48สป) ถูกต้องตามกฎหมาย โดยที่
– ใบอนุญาตประเภท 105 คือ เป็นการคัดแยกวัสดุที่ไม่ใช้แล้ว (011)
– ใบอนุญาตลำดับที่ 106 คือ การนำของเสียที่มีค่าความร้อนเช่น Solvent , น้ำมันใช้แล้ว , น้ำมันปนน้ำ , เศษผ้าปนเปื้อน , ขยะปนเปื้อน , วัสดุปนเปื้อน , ถุงมือปนเปื้อน , กากสี , COOLANT , สารดูดความชื้น , วัสดุพ่นขัดผิว , กากหมึกพิมพ์ เป็นต้น มาผ่านกระบวนการ BLENDING แล้วนำไปเป็นเชื้อเพลิงผสมให้กับโรงปูน (042) และหลอดไฟเสื่อมสภาพ , แบตเตอรี่ , กระป๋องสเปรย์, ผงคาร์บอน , SLAG , ผงเจียร  นำมาผ่านกระบวนการรีไซเคิล (049) และภาชนะปนเปื้อน นำมาผ่านกระบวนการล้างถัง (049)

♻️En-Tech บริการปรึกษาปัญหากากอุตสาหกรรมกับเราฟรี วางภาชนะบรรจุขยะฟรี แถมเรียกใช้บริการงาน 24ชม.

  • รับกำจัดกากของเสีย อันตราย และไม่อันตราย
  • รับตรวจวัดคุณภาพสิ่งแวดล้อม
  • รับขนส่งกากของเสีย
  • รับ WASTE ไปทำปุ๋ย
  • รับ CLEANING บ่อบำบัด รีโนเวท และ ดูแลระบบบ่อบำบัด
  • มีโรงปุ๋ยเป็นของตนเองเอง ที่ฉะเชิงเทรา
  • มีโรงงานเองที่มีใบอนุญาตถูกต้อง 105 และ 106
  • มีรถขนส่งเองที่มี วอ.8 และ GPS ทุกคัน
  • มีเจ้าหน้าที่ในการช่วยขนย้ายของเสีย ฟรี !!!!!!!!
  • มีเจ้าหน้าที่ที่ได้รับการอบรมทำงานในที่อับอากาศ

เหตุผล ที่ควรใช้บริการจากเรา ให้บริการ 24 ชั่วโมง ลูกค้าเรียกใช้บริการได้ทันที , มีรถขนส่งเองทุกประเภท ตอบสนองความต้องการลูกค้าได้ และบริการตรงเวลา , มีโรงปุ๋ยเป็นของตัวเอง ชำนาญและรู้วิธี ในการนำ Waste มาทำปุ๋ย , มีใบอนุญาต 105 และ 106 รับของเสียมา Blending , Recycle ได้เอง , มี Reference ลูกค้าใช้บริการทุกกลุ่มอุตสาหกรรม มีความเชี่ยวชาญการ กำจัดกากอุตสาหกรรม และไม่ผิดพลาด , ทำความสะอาดหน้างานหลังการขนงานเสร็จสิ้นทุกครั้ง ลูกค้าไม่ต้องจัดการเอง , ติดตั้ง GPS ที่รถทุกคัน, มีภาพถ่ายและเอกสารยืนยันการทำลาย เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจว่าของเสียนำไปกำจัดแล้วจริง

Our Customer

ลูกค้าบางส่วนของเรา

รายชื่อที่จังหวัดที่เราให้บริการ กำจัดกากอุตสาหกรรม

สมุทรปราการ นนทบุรี ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา อ่างทอง ลพบุรี สิงห์บุรี ชัยนาท สระบุรี ชลบุรี ระยอง นทบุรี ตราด ฉะเชิงเทรา ปราจีนบุรี นครนายก สระแก้ว นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี ยโสธร ชัยภูมิ อำนาจเจริญ บึงกาฬ หนองบัวลำภู ขอนแก่น อุดรธานี เลย หนองคาย มหาสารคาม ร้อยเอ็ด กาฬสินธุ์ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง อุตรดิตถ์ แพร่ น่าน พะเยา เชียงราย แม่ฮ่องสอน นครสวรรค์ อุทัยธานี กำแพงเพชร ตาก สุโขทัย พิษณุโลก พิจิตร เพชรบูรณ์ ราชบุรี กาญจนบุรี สุพรรณบุรี นครปฐม สมุทรสาคร สมุทรสงคราม เพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ นครศรีธรรมราช กระบี่ พังงา ภูเก็ต สุราษฎร์ธานี ระนอง ชุมพร สงขลา สตูล ตรัง พัทลุง ปัตตานี ยะลา นราธิวาส